6 วิธีป้องกันการถูกบูลลี่ ดูแลลูกให้ปลอดภัย ห่างไกลจากการถูกรังแก - SaiJai ข่าว

by SaiJai News
2 ปี ago
537 Views

 

ภัยจากการบูลลี่มีอยู่รอบตัว SAIJAI (ใส่ใจ) ชวนผู้ปกครองอ่าน วิธีป้องกันการถูกบูลลี่ สร้างภูมิคุ้มกันหัวใจลูกของคุณให้แข็งแรง รับมือได้ถูกหากโดนรังแก

เชื่อว่าเด็ก ๆ รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนคงรู้จักคำนี้ “บูลลี่” ปัจจุบันปัญหาเรื่องการบูลลี่เป็นประเด็นที่สังคมเริ่มให้ความสนใจขึ้นมาก แต่จริง ๆ แล้วพฤติกรรมการบูลลี่มีมานานแล้วในหลากหลายสังคม และมักสร้างความทรงจำอันเลวร้ายให้กับผู้ที่เป็นเหยื่อที่ถูกรังแก วันนี้ใส่ใจจึงขอชวนทุกคนมารู้จักศัพท์คำนี้ให้มากขึ้น พร้อมวิธีรับมือเมื่อโดนกลั่นแกล้ง เพราะการรู้วิธีป้องกันไว้ก่อน ย่อมดีกว่าการแก้ไขทีหลังแน่นอน

การบูลลี่ คืออะไร

การบูลลี่ คือ การกลั่นแกล้ง การรังแกให้ผู้อื่นได้รับความเจ็บปวดทั้งทางร่างกาย หรือจิตใจ โดยผลจากการถูกกระทำอาจสร้างบาดแผลในใจให้ผู้ถูกกระทำได้ โดยพฤติกรรมที่เข้าข่ายการบูลลี่มีหลากหลายวิธี ดังนี้

  • การทำร้ายด้วยคำพูด เช่น ล้อเลียนปมด้อย, ใส่ร้าย, ประจานให้เกิดความอับอาย
  • การทำร้ายทางร่างกาย เช่น ทำให้ร่างกายเกิดการบาดเจ็บ มีแผล
  • การทำร้ายทางสังคม เช่น การปล่อยข่าวลือที่ทำให้เกิดความเกลียดชัง, พฤติกรรมเพื่อนไม่ชอบใครเราไม่ชอบด้วย
  • การทำร้ายทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือ Cyberbulling

วิธีป้องกันการถูกบูลลี่ ทำอย่างไรไม่ให้เด็กตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้ง

  1. ผู้ปกครองควรสอนลูกให้รู้จักการโต้ตอบอย่างสุภาพ  กล้าปฏิเสธว่าไม่ชอบการกระทำใดๆ เพราะบ่อยครั้งผู้บูลลี่จะเลือกกระทำพฤติกรรมที่ไม่ดีใส่ผู้ถูกบูลลี่ เพราะเชื่อว่าผู้ถูกกระทำจะรู้สึกกลัวและไม่กล้าโต้ตอบ ดังนั้นภูมิคุ้มกันที่เด็กควรจะมีคือ การกล้าพูด
  2. ผู้ปกครองควรเป็นที่ปรึกษาที่เด็กไว้ใจ เปิดใจที่จะเล่าเรื่องราวให้ฟัง เมื่อเกิดความไม่ชอบมาพากลจะได้รีบหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที โดยผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานว่าแตกต่างไปจากเดิม หรือมีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น ของหาย มีแผลตามใบหน้าหรือลำตัว เด็กมีอาการซึม เก็บตัว ไม่อยากไปโรงเรียน ฯลฯ
  3. สอนให้เด็กมีวิจารณญาณในการรับสาร เนื่องจากในยุคปัจจุบันการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสามารถทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะวัยเด็กที่เป็นวัยอยากรู้อยากลอง หากได้รับสารที่ผิดหรือเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี ก็อาจเกิดการลอกเลียนแบบพฤติกรรมได้ ดังนั้นผู้ปกครองควรใส่ใจการใช้อินเทอร์เน็ตของบุตรหลานของท่าน จำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เหมาะสมของแต่ละวัย รวมถึงแนะนำให้เด็กรู้ว่าอะไรที่ดีและอะไรที่ไม่ดี ป้องกันการถูกบูลลี่บนสื่อออนไลน์นั่นเอง
  4. ไม่นิ่งนอนใจ แจ้งผู้ที่มีอำนาจโดยตรงทันทีเมื่อเกิดการถูกบูลลี่ในสังคมของเด็ก ผู้ปกครองควรอธิบายให้เด็กเข้าใจว่าคนที่ถูกรังแกไม่ใช่คนผิดหรือคนที่ควรกลัว ตรงกันข้ามผู้ที่รังแกคนอื่นต่างหากที่ควรกลัวและรู้สึกผิด เพื่อให้เด็กไม่ตกเป็นเหยื่อของการถูกบูลลี่หรือรู้สึกว่าต้องเผชิญกับการถูกรังแกแต่เพียงผู้เดียว
  5. เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้ลูก หากสังคมมีการบูลลี่ ดูไม่ปลอดภัย หรือมีความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กถูกบูลลี่ ผู้ปกครองควรมองหาสิ่งแวดล้อมใหม่ให้ลูก เช่น เปลี่ยนโรงเรียน เปลี่ยนกลุ่มเพื่อน เป็นต้น
  6. ให้ลูกเรียนแบบศึกษาด้วยตนเองหรือจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแล สำหรับบ้านที่พอจะมีกำลังทรัพย์ การจ้างติวเตอร์หรือพี่เลี้ยงมาดูแลลูกที่บ้านโดยเฉพาะ ถือว่าเป็นการป้องกันสังคมบูลลี่ได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เนื่องจากเด็กจะได้รับการดูแลจากบุคคลที่ไว้ใจได้ตลอดเวลา

หากพ่อแม่ผู้ปกครองคนไหนมองว่าการเปลี่ยนสังคม ให้ลูกมาอยู่ในความดูแลของที่บ้านเป็นทางออกที่ดี ทางใส่ใจก็มีบริการพี่เลี้ยงเด็กและบริการติวเตอร์ รอทุกท่านอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ saijai.io ใช้สะดวก จองผ่านออนไลน์ได้เลย

นอกจากนี้ยังมีบริการด้านอื่นที่น่าใช้เพียบ ไม่ว่าจะเป็นบริการแม่บ้าน, เสริมสวย, พี่เลี้ยงดูแลสัตว์, คนดูแลผู้สูงอายุ, คนขับรถ, ช่างซ่อมบำรุง SAIJAI พร้อมดูแลทุกคนในครอบครัว

สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปสอบถามหรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก SAIJAI Homecare หรือกดสมัครสมาชิก SAIJAI FAMILY MEMBERSHIP ได้ที่เว็บไซต์ https://pointspot.co/@SAIJAI_Homecare สิทธิพิเศษดี ๆ รอคุณอยู่เพียบ

สุดท้ายนี้ หวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้ทริกดี ๆ ไปใช้ดูแลลูกคนสำคัญของคุณให้ปลอดภัยจากการถูกบูลลี่ และเติบโตมาอย่างมีความสุขนะคะ.

 

 

ป้ายกำกับ:, , , , ,